วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

1.สถานตากอากาศบางปุ

วันที่เราไปเป็นช่วงเดือนมกราคม เป็นช่วงท่องเที่ยวพอดีคนเลยเยอะมาก

สังเกตุได้จากรถที่รอต่อแถวกันเข้ามาเที่ยวที่นี่

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

ที่สถานตากอากาศบางปู มีที่จอดรถรองรับมากมายครับ ถึงรถจะเยอะแต่ก็

พอที่จะหาที่จอดรถได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ครับ ไม่เสียค่าจอดรถด้วย

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

ที่ด้านหน้าของสถานตากอากาศบางปู จะมีรูปปั้นนกนางนวลตัวใหญ่ตั้งอยู่เด่นเลยครับ

ส่วนร้านอาหารมีตลอดสองข้างทางด้านหน้า สามารถขับรถเลาะชายทะเลหรือเดินไปทานได้

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

หลังจากที่เราหาที่จอดรถได้แล้ว เราก็เดินเข้ามาตามทางครับ

สองข้างทางจะเป็นต้นโกงกาง ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นปลาตีนเต็มเลยครับ

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

ตรงกลางสะพานเป็นจุดที่คนจะนิยมมาถ่ายรูปคู่กับนกนางนวล

เราต้องกะจังหวะแย่งวิวกันถ่ายรูปนิดหน่อย แนะนำให้ใจเย็นๆกันนะครับ

นกนางนวลสามารถไปชมได้ช่วงกลางเดือนตุลาคม ถึงประมาณเดือนเมษายนของทุกปีครับ

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

บางรูปอาจจะดูมืดๆหน่อยนะครับ จริงแล้วรูปไม่ได้สลับกัน แต่ถ่ายย้อนแสงเอาครับ

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

รีวิว สถานตากอากาศบางปู ชมนกนางนวลและทานอาหารที่ร้านศาลาสุขใจ

... สถานตากอากาศบางปู

    เวลาเปิด - ปิด
  ... เปิดทุกวัน
  ... ตั้งแต่เวลา 05.00 - 20.00 น.

    ค่าธรรมเนียมเข้าชม
  ... ฟรี ! ( ไม่เก็บค่าเข้าชม )

    อาหารการกิน
  ... มีอาหารตามสั่งจำหน่าย ณ ศาลาสุขใจ ( ศาลาสุขใจ อยู่ที่ปลายสะพานสุขตา )
  ... เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.

  ... พร้อมห้องสัมมนาและห้องจัดเลี้ยง 
  ... มี ดนตรี ลีลาศ เพื่อสุขภาพ ทุกเย็นวันเสาร์ 
  ... โทร. 02-3239911 

    สถานที่พักแรม
  ... มี บ้านพัก บังกะโล ( สำหรับบริการนักท่องเที่ยว )
  ... โทร. 02-3239530 



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :-
สถานตากอากาศบางปู กรมพลาธิการทหารบก หลักกิโลเมตรที่ 37 - 38 ถนนสุขุมวิท
ต.บางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
โทรศัพท์ 02-3239911, 02-3231213 

2.วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ

นมัสการหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ เที่ยวตลาดน้ำโบราณบางพลี

วัดบางพลีใหญ่ใน หรือวัดหลวงพ่อโต จ.สมุทรปราการ เพื่อสักการะหลวงพ่อโตและบูชาราหูล ที่นี่คือ สถานที่จัดงานประเพณีรับบัวโยนบัวประจำปี ซึ่งจะจัดกันหลังวันออกพรรษา วัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดสมุทรปราการ วัดนี้อยู่ริมคลองสำโรง ห่างจากประตูน้ำ สำโรง ประมาณ 13 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 40 กว่าไร่
ทางประวัติศาสตร์ พระนเรศวรทรงยาตรากองทัพ ขับไล่ข้าศึกมาทางทิศตะวันออก ของกรุงศรีอยุธยา มาถึงตำบลหนึ่งไม่ปรากฏนาม ทางทำพิธีพลีกรรมบวงสรวงตามตำรับพิชัยสงคราม เมื่อชนะสงครามแล้ว พระองค์ทรงกลับมาสร้างพลับพลานี้และเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม ต่อมา เรียกชื่อตามตำบลที่ทำพิธีพลีกรรมบวงสรวงว่า ตำบลบางพลี จึงเรียกวัดพลับพลาชัยชนะสงครามว่า วัดบางพลี ต่อมามีพระองค์ใหญ่ คือหลวงพ่อโต มาประดิษฐานในอุโบสถ และมีวัดบางพลีใหญ่กลางอยู่ด้านนอก จึงเรียกวัดพลับพลาชัยชนะสงครามว่า วัดบางพลีใหญ่ใน หรือวัดหลวงพ่อโต มาจนตราบเท่าทุกวันนี้

ที่วัดหลวงพ่อโต มีรูปหล่อจำลองหลวงพ่อวัดดังมากมายให้สักการะกัน เช่น หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์ หรือจะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีให้บูชามากมาย เช่น บูชาราหูล เจ้าแม่กวนอิม หมอชีวกโกมารภัจจ์ ศาลพระพรหม ตลอดจนการทำสังฆทาน ก็จะมีศาลาสำหรับให้ประชาชนได้ถวายสังฆทานกัน ตั้งแต่เช้า 8.00 น. โดยถวายสังฆทานเป็นรอบๆ ได้ตลอดเวลา และถ้าท่านจะทำทานเลี้ยงปลาก็ที่ท่าน้ำริมคลอง หรือสายๆ หน่อยก็สามารถเดินเที่ยวตลาดโบราณบางพลี 150 ปี





การเดินทาง วัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ที่ ถ.บางนา – ตราด กม.13 ฝั่งเขาเข้ากรุงเทพฯ ถึงก่อนโฮมโปร โลตัส บางพลี กม.12 ถ้ามาจาก จ.ชลบุรี มุ่งหน้ากรุงเทพฯ เมื่อผ่าน บ.ไทยซัมมิท ถ.บางนา – ตราด กม.16 ผ่านทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ชิดซ้ายทางคู่ขนาน เห็นโชว์   รูมรถยนต์มิตซูบิชิ ก็เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางอีก 3 – 4 กม.

 😗😗ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก😍😍 https://pantip.com/topic/30618598

3.พระสมุทรเจดีย์พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ

พระสมุทรเจดีย์พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ   


    ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในเขตตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ตามประวัติกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กับเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เป็นแม่กองจัดสร้างป้อมปราการจำนวน 6 ป้อม ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด ๓ ปีจึงแล้วเสร็จ เมื่อสร้างป้อมเสร็จแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ กับเจ้าพระยาพระคลัง เป็นผู้อำนวยการสร้างพระเจดีย์ขึ้นที่เกาะหาดทรายท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่พระองค์ทรงสละพระราชทรัพย์ เพื่อปกป้องประเทศชาติและพระศาสนา โดยโปรดฯ ให้กรมพระราชวังสถานมงคลมหาศักดิพลเสพ กับพระยาราชสงครามเขียนแบบแผนผังรูปพระเจดีย์ถวาย แล้วทรงเฉลิมพระนามว่า “ พระสมุทรเจดีย์ ”

แต่ยังมิได้ทันก่อสร้างก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เจ้าพระยาศรีธรรมราชกับเจ้าพระยาพระคลังเป็นแม่กองจัดสร้างต่อการก่อสร้างเริ่มเมื่อวันอังคาร ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 (ตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370) แล้วเสร็จเมื่อวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 (ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2371) ลักษณะขององค์พระสมุทรเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลนี้เป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ต่อมาได้มีผู้ร้ายลักลอบขุดองค์ระฆังลักเอาพระบรมธาตุที่บรรจุอยู่ภายใน
     สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างไปถ่ายแบบพระเจดีย์ที่กรุงศรีอยุธยามาจัดการก่อสร้างสวมทับพระเจดีย์รูปเดิมไว้ โดยลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลมวัดจากฐานล่างจนถึงยอดสูงสุด 19 วา จากนั้นจึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ จากพระบรมมหาราชวังมาบรรจุไว้แทนของเดิมที่สูญหายไป ในการนี้ได้โปรดฯให้สร้างศาลาเก๋งจีน หอเทียน หอระฆัง พระวิหารพร้อมด้วยพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร กับหลักผูกเรือริมน้ำรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ ฯลฯ สิ้นพระราชทรัพย์ในการก่อสร้าง 588 ชั่งเศษ และในรัชกาลต่อมาก็ได้มีการทำนุบำรุง และบูรณะปฏิสังขรณ์พระสมุทรเจดีย์มาโดยตลอด กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระสมุทรเจดีย์เป็นโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม 2487 และเล่ม 110 ตอนที่ 186 วันที่ 12 พฤศจิกายน 2536
รถเมล์ที่ผ่าน
 สาย 511 ( ปอ 11 เดิม ) จากสายใต้ใหม่ ไปลงที่ศาลากลางจังหวัด
 สาย 507 จากสายใต้ใหม่ ไปลงที่ศาลากลางจังหวัด
 สาย 536 จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปลงที่ศาลากลางจังหวัด
 สาย 25 จากท่าช้าง ไปลงที่ศาลากลางจังหวัด

 จากนั้นนั่งเรือข้ามฟาก 

 เรือข้ามฟากในตลาด ค่าบริการท่านละ 3 บาท

พระประทานด้านใน
พระสมุทรเจดีย์
มุมสูงพระสมุทรเจดีย์
มีท่าเริอริมแม่น้ำด้วย
วิวสวยๆ กับพระสมุทรเจดีย์

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก 😏 https://place.thai-tour.com/samutprakarn/phrasamutchedi/1907 😚

วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

4.เมืองโบราณ



เมืองโบราณ วันเดียวเที่ยวทั่วไทย

เมืองโบราณ
คุณเคยมีความคิดฝันซักครั้งในชีวิตบ้างมั้ยว่าอยากจะเที่ยวไปตามสถานที่ สำคัญต่างๆ ให้ทั่วประเทศบ้าง แต่พอคิดอีกทีก็คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากซะเหลือเกิน เพราะต้องอาศัยทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว แต่อย่างเพิ่งถอดใจกันซะก่อน เพราะคราวนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมตามสถานที่สำคัญต่างๆ ให้ครบถ้วนภายในหนึ่งวัน ถ้าอยากรู้ว่าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนก็รีบตามกันมาเลย
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
บนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ที่มีรูปร่างคล้ายด้ามขวานทองของประเทศไทยในเขตจังหวัดสมุทรปราการนี้ เป็นที่ตั้งของ“เมืองโบราณ” ที่ ซึ่งได้รวบรวมปราสาท ราชวัง วัดวาอาราม รวมถึงงานประติมากรรมต่างๆ ไว้ให้เราได้เข้าไปเที่ยวชม สิ่งก่อสร้างเหล่านี้บางแห่งเป็นการสร้างจำลองตามแบบของสถานที่จริง และบางแห่งก็เป็นการผาติกรรม ซึ่งเป็นการยกเอาสิ่งปลูกสร้างมาจากสถานที่จริง นำมาบูรณะให้งดงามอย่างเช่นอดีต ภายในเมืองโบราณมีการแบ่งพื้นที่ตามภูมิภาค เช่น ในภาคเหนือเราจะได้เห็น “วัดภูมินทร์” วิหารจตุรมุขสำคัญของจังหวัดน่าน ซึ่งมีภาพปู่ม่านย่าม่านอยู่ภายใน รวมถึง“วัดจองคำ” อาคารไม้สักทั้งหลังที่เชื่อมต่อวิหาร ศาลา และกุฏิ ไว้ในอาคารเดียวที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งเมืองโบราณทำการผาติกรรมมาจากจังหวัดลำปาง ส่วนภาคอีสานก็จะมี “พระธาตุพนม” ซึ่งเป็นการสร้างขึ้นตามแบบอย่างในโบราณจึงทำให้สีสันขององค์พระธาตุไม่เหมือนกับในปัจจุบัน

-
เมืองโบราณจัดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 800 ไร่ ที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศไทยไว้
-
เมืองโบราณเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
-
ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมเมืองโบราณ รวมค่าบริการรถราง จักยาน และบัตรนั่งเรือไว้เรียบร้อยแล้ว
-
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของภาคต่างๆ มีทั้งการสร้างโดยจำลองจากสถานที่จริง การผาติกรรม และการรังสรรค์ขึ้นตามจินตนาการของคุณเล็ก วิริยะพันธ์
เมืองโบราณ
ส่วนไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้นั้นต้องยกให้พื้นที่บริเวณภาคกลาง ที่เราจะได้ชม “พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท” พระ ที่นั่งสำคัญในสมัยอยุธยาซึ่งในปัจจุบันเหลือเพียงซากของฐานพระที่นั่งให้ เราได้เห็นเท่านั้น โดยเมืองโบราณได้มีการค้นคว้าจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ก่อนจะก่อสร้างขึ้นใหม่ให้มีความวิจิตรงดงามตามต้นแบบ และไม่ไกลจากกันนักยังมีพระที่นั่งสำคัญอีกแห่งนั่นคือ “พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท” ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งพระที่นั่งทั้ง 2 องค์นี้นับเป็นงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญของไทย ที่จะทำให้เราได้เห็นถึงความรุ่งเรืองของงานศิลปะอันวิจิตรงดงามในแต่ละยุค สมัย และถ้าหากไปทางภาคอีสานก็อย่าลืมขึ้นไปชมว่ายิ่งใหญ่อลังการของ “เขาพระวิหาร” ซึ่ง ทางเมืองโบราณได้จำลองมาจากสถานที่จริงโดยได้มีการถมที่ในบริเวณนี้ให้มี ลักษณะคล้ายภูเขาสูง เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว นอกจากจะได้ชมความงดงามของประสาทพระวิหารแล้ว เรายังได้เห็นทัศนียภาพของเมืองปากน้ำในมุมมอง 360 องศา สามารถมองเห็นไกลไปถึงปากอ่าวไทยด้วย
นอกจากสถานที่สำคัญๆ ที่ได้ถูกผาติกรรม และถอดแบบมาจากสถานที่จริงแล้ว ภายในเมืองโบราณยังมีอาคาร และสิ่งปลูกสร้างที่เกิดจากจิตนาการของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ อีกหลายแห่งในส่วนพื้นที่รังสรรค์ ซึ่งอาคารแต่ละหลังล้วนมีความวิจิตรงดงามมาก เช่น “ศาลาพระอรหันต์” “สะพานรุ้ง” "เขาพระสุเมรุ” หรือ “สวนพฤษชาติในวรรณคดีไทย” เป็นต้น นอกจากส่วนรังสรรค์แล้ว อาคารบางหลังอาจจะรูปรูปทรงแปลกตา ซึ่งสิ่งปลูกสร้างบางและอาคารเหล่านี้เป็นการสร้างขึ้นตามบันทึก หรือภาพจารึกต่างๆ ในประวัติศาสตร์ และหาชมไม่ได้แล้วในปัจจุบัน เช่น “หอพระแก้ว” “หอคำ ของเมืองลำปาง” เป็นต้น หลังจากเที่ยวชมตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ แล้ว ภายในเมืองโบราณยังได้มีการจำลองเอา “ตลาดน้ำ” และ “ตลาดบก” ไว้ให้เราได้แวะไปพักผ่อนหย่อนใจ นั่งเล่นพร้อมกินอาหารอร่อยๆ รวมถึงการช๊อปปิ้งสินค้าที่ระลึกต่างๆ มากมายซึ่งเมืองโบราณก็ได้รวบรวมเอาของฝาก ของที่ระลึกมาจากภาคต่างๆ ไว้มากมาย
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
การเที่ยวชมเมืองโบราณเราสามารถเลือกได้ทั้งการขี่จักรยานไปเรื่อยๆ ตามใจตัวเอง หรือจะเลือกนั่งรถรางแวะไปตามจุดต่างๆ แล้วลงเดินชมจนพอใจแล้วก็กลับมาขึ้นรถรางอีกครั้ง ซึ่งแต่ละวิธีก็จะทำให้เราได้เดินเที่ยวชมและสัมผัสบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ การได้แวะเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองโบราณไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีไหน ก็ดูเหมือนว่าระยะเวลาเพียงหนึ่งวันก็อาจจะไม่เพียงพอและคงจะเทียบไม่ได้กับ ความตั้งใจ และฝีมือการสร้างอันวิจิตรงดงามของช่างผู้มากฝีมือทุกคน ซึ่งกว่าจะได้มาซึ่งประติมากรรมเหล่านี้ต้องผ่านการค้นคว้า การทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และเวลาอันยาวนาน ทำให้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลายต่อหลายคนแวะเวียนมา ได้บ่อยคร้งโดยไม่รู้เบื่อ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ

ที่อยู่:หมู่ที่ 7 296/1 ถนนสุขุมวิท-บางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10280
GPS:13.53939, 100.62301
เบอร์ติดต่อ:0 2323 4099
แฟกซ์:0 2323 4055
E-mail:info@ancientsiam.com
Website:www.ancientsiam.com
Facebook:www.facebook.com/AncientSiam
เวลาทำการ:ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น.
ค่าธรรมเนียม:
  • ชาวไทย ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก 175 บาท
  • ชาวต่างชาติ  ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 250 บาท
  • สำหรับคนสมุทรปราการหรือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 250 บาท

    **(ราคานี้รวมรถราง จักรยาน และนั่งเรือ) ถ้าต้องการนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไป มีค่าธรรมเนียมคันละ 300 บาท
ช่วงเวลาแนะนำ:ตลอดทั้งปี
ไฮไลท์:สถานที่สำคัญต่างๆ ที่ถูกรวบรวมไว้ในเมืองโบราณ ซึ่งทุกส่วนประกอบเป็นไปตามแบบของสถานที่จริง ทั้งสวยงามและอลังการน่าทึ่ง
กิจกรรม:ขี่จักรยาน นั่งรถราง หรือนั่งเรือ เที่ยวชมเมืองโบราณ รวมถึงการพักผ่อนหย่อนใจในตลาดน้ำ และตลาดบก

ให้ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท(สายเก่า) มุ่งหน้าสู่บางปูจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าไป ทางจังหวัดสมุทรปราการจนไปสุดที่ถนนสุขุมวิทให้เลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิท ไปตามเส้นทางถนนสุขุมวิทพอถึงช่วงกิโลเมตรที่ 33 จะเห็นเมืองโบราณอยู่ทางด้านซ้ายมือ
    😆ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : 
http://www.thaiticketmajor.com

5. ฟาร์มจระเข้ สมุทรปราการ


ฟาร์มจระเข้ และสวนสัตว์สมุทรปราการ




ตั้งอยู่ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร หรือสามารถเข้าทางถนนสุขุมวิท (สายเก่า) เทศบาลบางปูซอย 46 ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2493 ปัจจุบันเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเป็นสถานเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดต่าง ๆ กว่า 60,000 ตัว มีการแสดงโชว์จระเข้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–16.00 น. ทุก ๆ 1 ชั่วโมง (พักเที่ยง) วันหยุดเพิ่มรอบ 12.00 น.และ 17.00 น.
นอกจากนี้ยังมีการแสดงของช้างแสนรู้ ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก โดยมีการแสดงทุก 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 -16.30 น. ทุกวัน
นอกจาก การเลี้ยงจระเข้แล้ว ภายในฟาร์มยังมีสัตว์อื่น ๆ อีก เช่น เสือ ลิงชิมแปนซี ชะนี เต่า งู นก อูฐ ฮิปโปโปเตมัส กวาง และปลาจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ได้จัดแสดงกระดูกและหุ่นจำลองไดโนเสาร์ พร้อมการฉายสไลด์มัลติวิชั่น เรื่องของมนุษย์และสัตว์ดึกดำบรรพ์ด้วย
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการแห่งนี้เปิดให้เข้าชม ทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
ค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่คนละ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท เด็ก 200 บาท การเข้าชมเป็นหมู่คณะหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการวิทยากร ควรมีหนังสือติดต่อล่วงหน้าไปที่ ฟาร์มจระเข้ และสวนสัตว์สมุทรปราการ เลขที่ 555 ถนนท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10280 หรือ โทร. 0 2703 4891, 0 2703 5144-8 หรือwww.crocodilesworld.com
การเดินทาง
นอกจากรถส่วนตัวแล้ว สามารถใช้บริการรถเมล์ปรับอากาศ ขสมก. สาย 536 ฟาร์มจระเข้-อนุสาวรีย์ชัย หรือสาย 507, 508 และ 511 หรือรถเมล์ธรรมดาสาย 25 และ 102 ไปยังจังหวัดสมุทรปราการ แล้วต่อรถสองแถวปากน้ำ – ฟาร์มจระเข้ ที่ป้ายหลักเมือง หรือจะขึ้นรถตุ๊ก ๆ ในราคา 40 บาท
ติดต่อ: 
โทร. 0 2703 4891, 0 2703 5144-8 หรือwww.crocodilesworld.com
สถานที่ตั้ง: 
ฟาร์มจระเข้ และสวนสัตว์สมุทรปราการ เลขที่ 555 ถนนท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10280
แผนที่ แสดงที่ตั้ง : 
[gmap markers=letters::13.570557401572277,100.59635424600856 |zoom=14 |center=13.56957287317888,100.59150695800781 |width=400px |height=450px |control=Micro |type=Map]
ข้อมูลจังหวัด: 




ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว: 
😊ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:http://sadoodta.com😆